การปะทะตามชายแดนพม่า พ.ศ. 2553-2554 เป็นการปะทะกันต่อเนื่องระหว่างกองทัพพม่า (ทัดมาดอ) และกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตยการปะทะกันเกิดขึ้นตามแนวชายแดนพม่าที่ติดต่อกับไทย ไม่นานหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 มีผู้ลี้ภัยประเมินไว้ 10,000 คนหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยจากความขัดแย้งรุนแรง มีความกังวลว่าเนื่องจากความไม่พอใจกับการเลือกตั้ง และการโกงการเลือกตั้ง ว่าความขัดแย้งอาจลุกลามไปเป็นสงครามกลางเมือง
ในวันที่ 1 ตุลาคม เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและทหารไทใหญ่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งทหารพม่าแพ้ และต่อมาถูกซุ่มโจมตีโดยทหารกะเหรี่ยง ต่อมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน เกิดการสู้รบในเมืองเมียะวดีในรัฐกะเหรี่ยง โดยทหารพม่าได้ยิงเข้าใส่ฝูงชนที่ปฏิเสธการเลือกตั้ง และมีการปะทะกันที่บริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ด้วย เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 20 คน ทหารพม่าเข้ายึดตลาดกลางเมืองเมียะวดี มีพลเรือนชาวไทยอย่างน้อย 5 คนบาดเจ็บจากอาวุธจรวดที่ยิงเข้ามาที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. มีผู้อพยพราว 10,000 คนข้ามแดนมายังประเทศไทย กองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธเข้าโจมตีเมืองเมียะวดีในวันที่ 9 พฤศจิกายน แต่กองทัพพม่ายึดเมืองไว้ได้หมดแล้ว และผลักดันกลุ่มทหารกะเหรี่ยงเข้าไปในป่า ผู้อพยพได้เดินทางกลับพม่า
ในวันที่ 10 พฤศจิกายน การปะทะที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ยังคงดำเนินต่อไป ฝ่ายกองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธพยายามเข้ายึดเมืองปยาทอนซู แต่กองทัพพม่าผลักดันฝ่ายกบฏออกไปได้ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน สถานีอัลญาซีราภาคภาษาอังกฤษได้รายงานว่า กองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธได้ไปร่วมมือกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงเพื่อต่อต้านการโจมตีของกองทัพพม่า ทั้งสองฝ่ายต่อสู้โดยใช้จรวดและปืนครกยิงใส่กันตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้อพยพเข้ามาในไทย
ในเดือนมกราคม การต่อสู้เกิดขึ้นตลอดในช่วงปีใหม่ระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธ โดยยังยิงจรวดเข้าใส่กัน บางส่วนพลัดเข้ามาในเขตไทย ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 คน กองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธกล่าวอ้างว่าฆ่าทหารพม่าได้ 26 คน และบาดเจ็บ 35 คน มีผู้อพยพเข้ามาในไทย 200 คนซึ่งฝ่ายไทยจัดให้อยู่ที่ตำบลพบพระ กองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธยังกล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยยอมให้ทหารพม่าผ่านแดนเข้าไปใช้ดินแดนไทยในการโจมตีฝ่ายตน แต่ทหารไทยไม่ได้โต้ตอบ
ในเดือนกุมภาพันธ์ เกิดการสู้รบระหว่างองค์กรกะฉิ่นอิสระกับกองทัพพม่า โดยฝ่ายกะฉิ่นกล่าวว่ากองทัพพม่านำโดยนายพลยิน ทเว ได้นำทหารล้ำเข้าไปในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกะฉิ่น ทำให้เกิดการปะทะขึ้น การสู้รบเกิดขึ้น 20 นาที ก่อนที่ฝ่ายพม่าจะถอยออกมา ทหารพม่าเข้าโจมตีทหารของกองทัพกะฉิ่นอิสระอีกในวันที่ 12 มิถุนายน ในวันรุ่งขึ้น กองทัพกะฉิ่นได้ประกาศสงครามกลางเมืองกับพม่า
ในเดือนมีนาคม ทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงได้ซุ่มโจมตีรถบรรทุกทหาร 27 คน บรรทุกทหารพม่าประมาณ 300คนบนเส้นทางระหว่างกาเนลายและบะยินหน่อง ทำให้ทหารพม่าเสียชีวิต 16 คน บาดเจ็บ 17 คน ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมมีการปะทะระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังของชนกลุ่มน้อยหลายจุด โดยในวันที่ 15 เมษายนเกิดการปะทะในรัฐฉาน ในเดือนพฤษภาคมเกิดการปะทะกับทหารกะเรนนี และทหารกะเหรี่ยงทั้งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงและกองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยงพุทธซึ่งการสู้รบได้ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน จึงมีการเจรจาเพื่อหยุดยิงระหว่างกองทัพพม่าและสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง
เลขาธิการทั่วไปของสหประชาชาติ นายบัน คีมุน แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปะทะระหว่างทหารรัฐบาลและกองทัพกบฏของชนกลุ่มน้อย พรรคออสเตรเลียเขียวเรียกร้องให้คว่ำบาตรพม่าจากเหตุความรุนแรง กระทรวงการต่างประเทศของแคนาดาได้ประกาศจะดำเนินโครงการเพื่อนชาวแคนาดาสำหรับพม่าเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ รัฐบาลไทยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายสู้รบด้วยความระมัดระวัง เพราะมีระเบิด M79 พลัดหลงเข้ามาในเขตไทย
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/การปะทะตามแนวชายแดนพม่า_พ.ศ._2553–2554